Come and enjoy lovely coffee shop and restaurant with great breeze of Chao Phraya River plus lush green garden,near Rama V bridge and Nonthaburi Pier ร้านกาแฟ เบเกอรี่ อาหารกลางวัน ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงสะพานพระราม5 และท่าน้ำนนท์ บรรยากาศสไตล์บ้านสวน ชมวิวรับลมแม่น้ำ

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556

มะขามป้อม : แก้ไอ
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus emblica Linn.


          มะขามป้อมจัดได้ว่าเป็นสมุนไพรที่เก่าแก่มาแต่ครั้งพุทธกาล  เป็นผลไม้ที่พระภิกษุสามารถเก็บไว้ขบฉันแม้ในยามวิกาลได้ถือเป็นโอสถ  คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ล้วนมีประสบการณ์ในการใช้สมุนไพรชนิดนี้เป็นอย่างดี  เพราะเป็นพืชประจำถิ่นของภูมิภาคแถบนี้  เราจะพบมะขามป้อมได้ทั่วทุกภาคในเมืองไทยยกเว้นทางภาคใต้  มะขามป้อมจะขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าเต็งรังหรือที่เราเรียกว่าป่าแดง
          ท่านใดที่เคยมีประสบการณ์ในการเดินป่าเต็งรังในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม จะพบต้นไม้ใบโกร๋นๆ แต่มีดอกบานสะพรั่งนานาชนิดให้ชื่นชมท่ามกลางความแล้งร้อน  และโชคดีที่ช่วงนี้ในป่าจะมีผลมะขามป้อมให้เก็บกิน ชุ่มคอคอยดับกระหาย คลายเหนื่อยได้อย่างดี
          มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด คือมีวิตามินซี 276 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม  ทั้งวิตามินซีในมะขามป้อมยังถูกดูดซึมได้ดีกว่าวิตามินซีเม็ด  แม้การนำไปตากแห้งหรือต้มที่มีส่วนทำให้วิตามินซีลดลง แต่ก็ยังมีวิตามินซีเหลือเฟือที่จะใช้รักษาโรคเช่น โรคลักปิดลักเปิด
          ในอินเดียมีการใช้มะขามป้อมรักษาสารพัดโรค โดยเชื่อว่าการกินมะขามป้อมเป็นประจำจะบำรุงสายตา  บำรุงผิว ทำให้ผิวขาวนวล บำรุงสมองช่วยให้นอนหลับ แก้น้ำเหลืองเสีย  รวมทั้งยังใช้มะขามป้อมเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวใช้ทาผมเป็นยาบำรุง เป็นต้น
          ปัจจุบันเราไม่ค่อยได้เห็นต้นมะขามป้อมกันมากนัก เพราะพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ถูกบุกรุกแผ้วถางเป็นพื้นที่ทางการเกษตร และรสชาติผลมะขามป้อมไม่ค่อยจะถูกใจคนรุ่นใหม่ที่เน้นรสหวานมันเป็นหลัก  มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีหลายรสตั้งแต่เปรี้ยว หวาน ฝาด ขม ซึ่งความหลากหลายรสนี้ในทางยาไทยเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้มาก  รสที่เด่นของมะขามป้อมคือ รสขม ฝาด เปรี้ยว ซึ่งจะช่วยบำรุงเสียงให้ไพเราะ แก้กระหายน้ำ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ไข้  คนไทยแต่เดิมจึงรู้กันโดยทั่วไปว่ามะขามป้อมบำรุงเสียง แก้ไอ
          มะขามป้อม เป็นสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่น่าจะส่งเสริมให้นำมาทำเป็นน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ  นอกจากจะมีสรรพคุณบำรุงร่างกายและรักษาอาการต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว  น้ำมะขามป้อมยังมีรสเปรี้ยวนำ หวานเค็มตาม มีรสฝาดเล็กน้อย แต่รสก็กลมกล่อมดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจอย่าบอกใคร
          วิธีการทำก็ไม่ยากอะไร เริ่มจากใช้มะขามป้อมแก่จัดเม็ดเล็กบ้างใหญ่บ้างไม่ว่ากันสัก 1 ถ้วย ล้างให้สะอาด แกะเมล็ดออก ใส่เครื่องปั่นหรือตำครกแบบไทยๆ ก็ได้ เติมน้ำ 2 ถ้วย  เติมน้ำเชื่อมพอหวาน ประมาณ 1/3 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา ชิมรสดูตามชอบ  จะได้น้ำมะขามป้อมสีนวลขุ่นๆ นำมาใส่ภาชนะเก็บไว้ในตู้เย็น
          สำหรับการกินมะขามป้อมแก้ไอของคนไทยมีหลากหลาย ตั้งแต่กินสดๆ โดยค่อยๆ เคี้ยวกินกับเกลือ  นำไปหมกหรือย่างไฟก่อนแล้วค่อยเคี้ยวอมกลืนทีละน้อยหรือต้มกินน้ำ  บางรายก็นำไปตำกับเกลือนิดหน่อยแล้วเติมน้ำผึ้งลงไป หรือจะฝนผลแห้งกับน้ำแล้วแทรกเกลือ  รวมทั้งสามารถทำเป็นมะขามป้อมกวนไว้กิน โดยนำมะขามป้อมมาต้มกับเกลือจนเปื่อย เอาเม็ดในออก บดให้ละเอียดแล้วกวนกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนไว้อมแก้ไอ
          ส่วนในอินเดียมีการใช้มะขามป้อมแก้ไอโดยใช้น้ำมะขามป้อมคั้น 1 ส่วนผสมน้ำผึ้ง 1 ส่วน ซึ่งใช้รักษาไอกรนในเด็กได้ด้วย โดยให้เด็กกินวันละ 2-3 ครั้งๆ ละ 1 ช้อนชา
          ปัจจุบันการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า ในผลมะขามป้อมมีสารที่มีฤทธิ์ขับเสมหะ บรรเทาอาการไอได้จริง  จึงเป็นที่น่าสนใจว่าจะทำอย่างไรที่จะนำสมุนไพรมะขามป้อมที่มีอยู่ในบ้านเรามาใช้เป็นยาทดแทนยาจากต่างประเทศ  เพราะเราก็รู้ดีว่ายาแก้ไอจากต่างประเทศที่ใช้กันอยู่ไม่ต่างจากการจิบน้ำอุ่นสักเท่าใดนัก  ทุกวันนี้ประเทศเราเสียดุลให้กับต่างประเทศในเรื่องยาแก้ไอประมาณปีละเกือบพันล้านบาท
          เราคงต้องกลับมาทบทวนอย่างจริงจังว่า ทำไมเราไม่สามารถใช้สมุนไพรจากบ้านเราเป็นยารักษาโรคให้กับคนบ้านเราได้ แม้แต่โรคง่ายๆ อย่างอาการไอ ที่ไม่ใช่โรครุนแรงอะไรเลย  หรือแม้แต่จะทำให้คนไทยหันกลับมาดื่มน้ำสมุนไพรเพื่อส่งเสริมสุขภาพ  ก็อาจต้องรอให้ฝรั่งมาทำน้ำมะขามป้อมใส่กล่องส่งมาขายเราเสียก่อน  จึงจะนิยมดื่มกันให้เท่แบบไทยๆ อย่างนั้นหรือ

ความรู้จากคอลัมน์ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย 

(มติชนสุดสัปหาห์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Plantilla Minima modificada por Urworstenemy