บำรุง รักษา ดูแลไตกันเถอะ
ไต จัดว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในร่างกายของเรา ไตทำหน้าที่กรองโลหิตที่หัวใจส่งมาและของเสียเพื่อขับออกทางปัสสาวะ เปรียบไปคล้ายกับลำไส้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ขับของเสียในรูปอุจจาระ ศาสตร์ตะวันออกบอกว่าไตทำหน้าที่รักษาความสมดุลของธาตุน้ำในร่างกายด้วย ลองนึกดูว่าถ้าเกิดไตไม่ยอมทำงานขึ้นมา หรือที่หมอเรียกว่าไตวายหรือไตล้มเหลวนั้นจะน่ากลัวแค่ไหน เพราะร่างกายไม่สามารถขับของเสียออกทางปัสสาวะได้ ทำให้มีอาการบวมไปทั่วตัวและระบบต่าง ๆ ในร่างกายรวนไปตาม ๆ กัน แล้วเจ้าอาการไตวายที่ว่านี้ หนทางเยียวยาเท่าที่มีอยู่ในเวลานี้คือ การล้างไตและการผ่าตัดเปลี่ยนไตซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก คนที่เป็นไตวายจึงเป็นผู้ที่น่าเห็นใจมาก ไตวายนั้นไม่ใช่ว่าปุบปับจะเป็นกันง่าย ๆ มักเป็นอาการแทรกซ้อนของคนที่เป็นโรคเรื้อรังเช่น เบาหวาน โรคเกาต์ ความดันสูง ฯลฯ พูดง่าย ๆ คือเป็นโรคเรื้อรังมานานจนสุขภาพทรุดโทรมย่ำแย่เต็มที
ทางเลือกที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงภาวะดังกล่าวอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่ตัวเราและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อย่าให้เป็นโรคเรื้อรังเพื่อจะได้ไม่ลุกลามถึงไตจนทำให้ไตวาย หันมาใส่ใจดูแลไตและระบบทางเดินปัสสาวะให้ทำงานเป็นปกติไปได้นาน ๆ หลีกเลี่ยงนิสัยการกินและดื่มที่ไม่ถูกต้องที่จะทำลายไตและระบบทางเดินปัสสาวะ
วิธีปฏิบัติทั่วไปที่จะช่วยให้อวัยวะเล็กๆ รูปร่างคล้ายถั่วดำอยู่ในสภาพดีคู่กับเราไปนานๆ
- ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย ไม่มากหรือน้อยเกินไป
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์มากเกินไป ศาสตร์ตะวันออกถือว่าไตมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับระบบสืบพันธุ์ ถ้าหักโหมเกินไปไตก็ถูกกระทบกระเทือนไปด้วย
- ลดหรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม
- ไม่กินอาหารรสเค็มนัก ลดอาหารประเภทเนื้อ ปกติปัสสาวะจะมีสารยูเรียและโซเดียมคลอไรด์ละลายอยู่ถึง 90% ไตใช้แรงงานมากในการขับสองสิ่งนี้ออกจากร่างกายซึ่งทำให้ไตต้องทำงานหนัก ยูเรียเกิดจากการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย ยิ่งกินอาหารเนื้อปริมาณมากหรือปรุงรสอาหารด้วยซอสและซีอิ๊วสารพัดอย่าง(ซึ่งมีผงชูรส สารกันบูดและสารแต่งสีแต่งกลิ่น) รวมถึงพริกน้ำปลาและเครื่องปรุงก๋วยเตี๋ยวที่วางประจำโต๊ะ ไตต้องทำงานหนักมากเพื่อขับของเสียเหล่านี้ ทางปฏิบัติคือ พยายามลดการปรุงรสอาหารลงเรื่อย ๆ จนเกิดความเคยชินที่จะไม่ค่อยปรุงรสชาติอาหาร คือกินจืด ๆ เข้าไว้ อาจต้องใช้หลักพุทธธรรมช่วยบ้างในการลด ละ เลิก
- ไม่ควรกินยาขับปัสสาวะ ถ้าจำเป็นต้องอยู่ในคำแนะนำดูแลของแพทย์
- การใช้ยาปฏิชีวนะนาน ๆ ทำให้ไตทำงานหนักขึ้น
- การเดินทางไกลมาก ๆ หรือสมบุกสมบันไกล ๆ ติดต่อกันนานทำให้ไตและอวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือน ต้องดูความพอดีและหาทางลดแรงกระแทก
- ไม่ควรอั้นปัสสาวะหรือออกแรงเบ่งปัสสาวะมากเกินไป
- สมุนไพรเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการบำรุงไตและทางเดินปัสสาวะเช่น โคกกระสุน Tribulis terrestris(ตำรับอินเดีย) ยังช่วยส่งเสริมระบบสืบพันธุ์เพศชายด้วย ใช้โคกกระสุนปริมาณ 1 แก้วแช่ในน้ำเดือด 3 แก้วปิดฝาจนเย็นแล้วดื่ม ผักโขมหินมีสรรพคุณและวิธีใช้เช่นเดียวกัน ส่วนรากสามสิบ ตามตำรับอินเดียถือเป็นสมุนไพรบำรุงสตรีโดยเฉพาะ ใช้ผงรากสามสิบประมาณ 1 ช้อนชาต้มกับนม 1 แก้ว อาจปรุงน้ำตาลเล็กน้อยดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอน
หลักและตัวอย่างอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต
1.ในโรคไตอักเสบเฉียบพลัน ต้องพยายามให้ไตได้พักการทำงานเกี่ยวกับการขับถ่ายสารต่าง ๆ ในขณะที่อาหารต้องให้พลังงานเพียงพอ ต้องมีสารอาหารพวกโปรตีนต่ำหรืองดโปรตีนไปในขณะที่อาการรุนแรง จำกัดเกลือโซเดียมหรือลด หรืองดรสเค็ม ถ้ามีอาการบวมหรือมีความดันโลหิตสูงอาจต้องจำกัดน้ำ
2.โรคไตอักเสบเรื้อรัง การให้โปรตีนเป็นไปตามระยะของโรค ถ้าสูญเสียแอลบูมินซึ่งเป็นโปรตีนไปทางปัสสาวะมากก็ต้องให้โปรตีนสูงขึ้นจะช่วยลดอาการบวมได้
3.การให้สารอาหารที่มีโปรตีนต่ำช่วยให้ไตได้พักผ่อนเพราะไม่ต้องขับสารยูเรียการจากเผาผลาญโปรตีน
4.ให้อาหารที่มีเกลือโซเดียมต่ำเพื่อช่วยลดการบวม ลดความดันโลหิตและลดการทำงานของไตไม่ให้หนักเกินไป
ตัวอย่างรายการอาหารใน 1 วัน
มื้อเช้า
- น้ำผลไม้คั้นสด 1 แก้ว
- ผลไม้ 1 จานเล็ก
- โจ๊กข้าวกล้องใส่สาหร่ายและเห็ดหอมแห้ง ไม่ปรุงรสหรือใส่ซีอิ๊วขาว 1/4-1/2 ช้อนชาต่อถ้วย โรยต้นหอมผักชีและพริกไทยป่น
มื้อกลางวัน
อาหารหลักควรเป็นมังสวิรัติ ถ้าค่าของแอลบูมินต่ำควรเสริมพวกเต้าหู้ นมถั่วเหลือง
- น้ำผลไม้หรือน้ำ ขึ้นอยู่กับมีอาการบวมน้ำอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็ต้องตามแพทย์สั่ง
- สลัดผักสดกับน้ำสลัดซึ่งปรุงด้วย น้ำส้มเขียวหวานคั้น น้ำผึ้ง เกลือโพแทสเซียมเล็กน้อยและมัสตาร์ดที่ผสมแล้วหรือน้ำส้ม 1 ถ้วยตวง ชิมรสไม่ให้ออกเค็ม
- ข้าวอบเผือก
- ใช้ผลไม้จานเล็กเป็นของว่างและแทนขนม
มื้อเย็น
- ข้าวกล้องสุก 1 ทัพพี
- แกงจืดใบตำลึงกับเห็ดฟาง
- ผัดพริกขิงถั่วฝักยาวหรือถั่วแขก
ความรู้แบ่งปัน เรียบเรียงจากคอลัมน์ สมุนไพรเพื่อสุขภาพ โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย และคอลัมน์ กินด้วยปัญญา พ.ญ.จิรพรรณ มัธยมจันทร์ (มติชนสุดสัปดาห์)
Tweet
วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น